สติกเกอร์ PVC และ PP แตกต่างกันอย่างไร?
11 Feb 2025
ความแตกต่างระหว่างสติกเกอร์ PVC และ PP
สติกเกอร์ PVC และ PP เป็นวัสดุยอดนิยมในการพิมพ์สติกเกอร์สำหรับงานโฆษณาและบรรจุภัณฑ์ แต่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในด้านความทนทาน ความยืดหยุ่น และการใช้งานที่เหมาะสม
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. สติกเกอร์ PVC (Polyvinyl Chloride)
ข้อดี
- มีความยืดหยุ่นสูง ดัดโค้งหรือขึ้นรูปกับพื้นผิวที่มีความโค้งได้ดี
- กันน้ำ กันรอยขีดข่วน ทนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี
- เหมาะสำหรับงานภายนอกและงานที่ต้องการความทนทาน
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าสติกเกอร์ PP
- ลอกออกยากกว่า และอาจมีคราบกาวติดอยู่
เหมาะสำหรับ
- สติกเกอร์ติดรถยนต์ ติดหมวกกันน็อค ติดกระจก ติดป้ายโฆษณากลางแจ้ง
- สติกเกอร์กันน้ำ เช่น ติดขวดน้ำ สติกเกอร์ตกแต่งร้านค้า
- สติกเกอร์สำหรับงานที่ต้องทนต่อสภาพอากาศ เช่น ป้ายเตือนภัย ป้ายอุตสาหกรรม
2. สติกเกอร์ PP (Polypropylene)
ข้อดี
- กันน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง สีพิมพ์คมชัด
- มีลักษณะบางกว่าและมีผิวสัมผัสที่เรียบเนียน
- ราคาถูกกว่าสติกเกอร์ PVC
- ลอกออกง่ายกว่าสติกเกอร์ PVC ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ข้อเสีย
- ไม่ยืดหยุ่นมาก แตกหักหรือฉีกขาดง่ายกว่า PVC
- ไม่ทนแดดเท่า PVC จึงไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกเป็นเวลานาน
- หากใช้ภายนอกนาน ๆ อาจเกิดการเปราะแตกหรือซีดจางเร็วกว่า PVC
เหมาะสำหรับ
- ฉลากสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ เช่น ฉลากขวดน้ำ ขวดแชมพู กล่องเครื่องสำอาง
- สติกเกอร์ที่ใช้ติดชั่วคราว เช่น ป้ายโปรโมชั่น สติกเกอร์รณรงค์
- งานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัด แต่ไม่ต้องการความทนทานมาก
วิธีเลือกใช้สติกเกอร์ PVC หรือ PP ให้เหมาะกับงาน
เลือกสติกเกอร์ PVC ถ้า :
- ต้องการสติกเกอร์ที่มีความทนทานสูง
- ต้องใช้งานกลางแจ้ง หรือบริเวณที่โดนน้ำและแสงแดดโดยตรง
- ต้องติดบนพื้นผิวที่มีความโค้ง เช่น รถยนต์ หมวกกันน็อค
เลือกสติกเกอร์ PP ถ้า:
- ใช้สำหรับฉลากสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ที่เน้นความคมชัดของงานพิมพ์
- ใช้สำหรับงานภายในอาคาร หรือไม่ต้องการให้ติดทนนานมาก
- ต้องการลอกออกง่าย ไม่ทิ้งคราบกาว
สรุป
-
PVC → เหมาะกับงานภายนอก กันน้ำ ทนแดด ทนรอยขีดข่วน
-
PP → เหมาะกับงานภายใน ฉลากสินค้า ราคาถูกกว่า และลอกออกง่ายกว่า
หากคุณต้องการเลือกสติกเกอร์ที่เหมาะสมกับงานของคุณ บอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย ผมช่วยแนะนำให้เหมาะกับงบประมาณและการใช้งานของคุณ!