Please wait...

กระบวนการเคลือบงานพิมพ์อิงค์เจ็ทมีกี่ประเภท??

กระบวนการเคลือบงานพิมพ์อิงค์เจ็ทมีกี่ประเภท??

11 Feb 2025

ประเภทของการเคลือบงานพิมพ์อิงค์เจ็ท

1. เคลือบแบบเงา (Glossy Lamination)  เป็นการเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มใสที่มีผิวเงา หรืออาจใช้สารเคลือบเงา (Varnish) ซึ่งช่วยให้พื้นผิวของงานพิมพ์มีความมันวาวและสีสันสดใสขึ้น

คุณสมบัติเด่น:

  • ทำให้สีดูสดขึ้น เพิ่มความคมชัดของภาพ
  • ให้ความเงางาม สะท้อนแสง ทำให้งานพิมพ์ดูมีมิติ
  • ป้องกันรอยขีดข่วนและสิ่งสกปรกบนพื้นผิวได้ดี
  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการดึงดูดสายตา เช่น โปสเตอร์ แบนเนอร์ หรือเมนูอาหาร

ข้อเสีย:

  • มีโอกาสเกิดแสงสะท้อน อาจทำให้อ่านยากในบางมุม
  • อาจเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย โดยเฉพาะในบริเวณที่จับบ่อย ๆ
  • หากใช้ภายนอกเป็นเวลานาน อาจมีการหลุดลอกหรือซีดจางเร็วกว่าการเคลือบแบบ UV

เหมาะสำหรับ:

  • งานป้ายที่ติดตั้งภายในอาคาร เช่น แบนเนอร์ โปสเตอร์ โบรชัวร์
  • งานที่ต้องการเน้นสีสันและความคมชัด เช่น ภาพถ่าย แคตตาล็อกสินค้า
  • งานที่ต้องการให้ดูหรูหราหรือมีมิติมากขึ้น

2. เคลือบแบบด้าน (Matte Lamination)  เป็นการเคลือบด้วยฟิล์มหรือสารเคลือบที่ให้พื้นผิวสัมผัสแบบด้าน ไม่มีความมันวาว

คุณสมบัติเด่น:

  • ลดการสะท้อนแสง ทำให้อ่านง่ายขึ้นจากทุกมุมมอง
  • ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นทางการ
  • ลดรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้ดี ไม่เป็นรอยง่ายเหมือนเคลือบเงา
  • เพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นผิว

ข้อเสีย:

  • สีอาจดูหม่นลงเล็กน้อย ไม่สดใสเท่าเคลือบเงา
  • หากเปียกน้ำอาจเกิดรอยด่างได้ หากไม่มีการเคลือบกันน้ำเพิ่มเติม

เหมาะสำหรับ:

  • งานที่ต้องการความหรูหรา เช่น นามบัตร ป้ายร้านอาหาร เมนูอาหาร
  • งานที่ต้องการอ่านได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องแสงสะท้อน เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายในที่ทำงาน
  • งานที่ต้องการให้ดูพรีเมียม เช่น แพ็กเกจจิ้ง กล่องบรรจุภัณฑ์

3. เคลือบแบบ UV หรือเคลือบกันน้ำ (UV Coating / Lamination)  เป็นการเคลือบพื้นผิวด้วยสารเคลือบ UV ที่ช่วยป้องกันน้ำ ความชื้น และรังสี UV ได้ดี

คุณสมบัติเด่น:

  • กันน้ำและความชื้นได้ดีมาก เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคาร
  • ป้องกันแสงแดด ช่วยลดการซีดจางของหมึก
  • เพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการขูดขีดและการใช้งานหนัก
  • มีทั้งแบบเงาและด้าน ให้เลือกใช้ตามความต้องการ

ข้อเสีย:

  • ต้นทุนสูงกว่าการเคลือบแบบเงาและด้าน
  • กระบวนการเคลือบต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะ และใช้เวลาในการเซ็ตตัว
  • อาจทำให้พื้นผิวแข็งขึ้น ทำให้พับหรือดัดโค้งได้ยาก

เหมาะสำหรับ:

  • ป้ายภายนอกอาคาร เช่น ป้ายไวนิล ป้ายบิลบอร์ด ป้ายจราจร
  • ป้ายที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศ เช่น ฝน แดด และลม
  • งานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น สติกเกอร์กันน้ำ ป้ายติดหน้าร้าน

เปรียบเทียบการเคลือบแต่ละประเภท

ประเภทการเคลือบ

สีสัน

ป้องกันรอยขีดข่วน

กันน้ำ

ลดแสงสะท้อน

อายุการใช้งาน

เหมาะกับงาน

เคลือบเงา (Glossy)

สีสด คมชัด

ปานกลาง

ต่ำ

ไม่ลดแสงสะท้อน

ปานกลาง

งานโฆษณา ป้ายในอาคาร

เคลือบด้าน (Matte)

สีซอฟต์ ดูหรู

ดี

ต่ำ

ดีมาก

ปานกลาง

นามบัตร เมนูอาหาร ป้ายประชาสัมพันธ์

เคลือบ UV (กันน้ำ)

สีสด คมชัด

ดีมาก

ดีมาก

ปานกลาง

สูง

ป้ายกลางแจ้ง ป้ายกันน้ำ

วิธีเลือกประเภทการเคลือบให้เหมาะกับงาน

  • ถ้าเน้นความสดใสและความคมชัด → เคลือบเงา

  • ถ้าเน้นความหรูหรา ไม่สะท้อนแสง → เคลือบด้าน

  • ถ้าต้องการกันน้ำและทนแดด → เคลือบ UV

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • หากต้องการใช้ป้ายนาน ๆ งานกลางแจ้งควรเลือกเคลือบ UV เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน
  • หากเป็นงานเมนูอาหารที่ต้องจับบ่อย ๆ ควรเลือก เคลือบด้าน เพราะไม่เกิดรอยนิ้วมือง่าย
  • หากเป็นแผ่นพับ โบรชัวร์ หรืองานพิมพ์ที่ต้องการดึงดูดสายตา ควรเลือก เคลือบเงา

สรุป
การเลือกวิธีเคลือบงานพิมพ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การใช้งาน ตำแหน่งการติดตั้ง และงบประมาณ หากต้องการให้ป้ายมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรเลือกการเคลือบที่เหมาะสม เช่น
เคลือบ UV สำหรับงานภายนอก และ เคลือบด้าน หรือ เคลือบเงา สำหรับงานภายใน

ถ้าคุณมีงานพิมพ์ที่ต้องการเลือกการเคลือบเฉพาะ แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยนะครับ! 

widget